พูดได้เลยว่าที่นี่คือผืนป่าที่สมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้ ซึ่งเต็มไปด้วยสรรพสัตว์นานาชนิดและพันธุ์ไม้หายากมากมาย โดยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลานั้นได้รับการประกาศจัดตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2539 อันเป็นแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่มีพื้นที่ประมาณ 270,725 ไร่ และครอบคลุมพื้นที่ทิวเขาสันกาลาคีรี ซึ่งเปิดต้อนรับนักท่องธรรมชาติให้เข้ามาศึกษา อย่างไรก็ตาม ที่นี่จัดเป็นสถานที่เปราะบาง จึงไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักแรมได้ สำหรับฤดูกาลที่เหมาะสมนั้น อยู่ระหว่างปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีฝนตกไม่มากนัก
กิจกรรมไฮไลต์
• สนุกกับชีวิตสรรพสัตว์ในพงไพร ณ จุดชมสัตว์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากสำนักงานเพียงประมาณ 5 กิโลเมตร บริเวณนี้จะมีต้นไทรขึ้นอยู่มาก และมีสัตว์รวมทั้งนกนานาชนิดออกมากินลูกไทรเป็นอาหาร
• ชมทะเลหมอก ณ หน่วยพิทักษ์ภูเขาทอง ซึ่งเป็นหน่วยย่อยของเขตรักษาพันธุ์ฯ โดยตรงเข้ามาอีกประมาณ 10 กิโลเมตรจากจุดชมสัตว์ นอกจากนี้สองข้างทางจะได้เห็นพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่ไม่อาจหาชมได้ง่าย ๆ จากที่อื่นในไทย และถ้าลองสังเกตดี ๆ อาจได้พบนกเงือก เพราะบริเวณนี้มีต้นสยาขึ้นอยู่มากมาย และต้นสยานี้เอง ที่เป็นแหล่งทำรังสำคัญของนกเงือก
การเดินทางไปเขตรักษาพันธุ์ฯ สามารถเหมารถสองแถวได้ที่ตลาดอำเภอแว้ง หรือสถานีรถไฟสุไหงโกลก หรือขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 4057 มุ่งหน้าไปยังอำเภอแว้งจนถึงบ้านบูเก๊ะตา จะมีป้ายบอกทางให้ขับต่อไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา สำหรับผู้ที่มีความประสงค์เข้าพื้นที่เพื่อศึกษาธรรมชาติ ต้องทำหนังสือแจ้งความประสงค์มาล่วงหน้า มาที่เขตรักษาพันธุ์สัตวป่าฮาลา-บาลา ตู้ ป.ณ. 3 อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส 96160